Logo
           
-สมัครสมาชิก-
           
-เข้าสู่ระบบ-
           
-ติดต่อเรา-

ซากา” กันท่า ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้

ซากา อาร์เซนอล กำลังพยายามอย่างหนักในการจับ บูคาโย ซากา ปีกตัวเก่งต่อสัญญาฉบับใหม่ให้ได้ ท่ามกลางความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ทีมคู่แข่งสำคัญในศึกพรีเมียร์ลีก ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค

แข้งวัย 20 ปีเหลือสัญญาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม อีกเพียง 2 ปี โดยที่ทาง เดอะ กันเนอร์ส ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไปในระยะยาว และมีข่าวว่าพร้อมที่จะเพิ่มเงินค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ให้เป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของสโมสร จากที่ปัจจุบันรับอยู่ประมาณ 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

รายงานจาก เดลี เมล เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีความสนใจจาก 2 ทีมลุ้นแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีข่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ช่วงปลายซีซั่นที่ผ่านมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม สื่อดังกล่าวยังระบุว่า อาร์เซนอล เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับ ซากา ได้ ในขณะที่ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 100 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบน จาค็อบส์ ผู้สื่อข่าวของทาง CBS ได้ออกมาเปิดเผยว่า มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่งในศึกพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของ จาร์ร็อด โบเวน ในช่วงซัมเมอร์นี้

ปีกวัย 25 ปี ถือเป็นนักเตะที่โดดเด่นคนหนึ่งของทีมขุนค้อนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูกับ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าตัวก็ตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของ เดอะ กันเนอร์ส ทีมร่วมกรุงลอนดอนไปแล้ว

จาค็อบส์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับทางเว็บไซต์ Givemasport ว่า ทาง อาร์เตตา ได้ให้ความสนใจ โบเวน เป็นอย่างมาก และเขาได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมด้วย

“ด้าน โบเวน จุดยืนของ เวสต์แฮม ก็คือ พวกเขาไม่ต้องการขายนักเตะคนนี้ ซึ่งมีหลายสโมสรที่วนเวียนตกเป็นข่าวด้วย แต่ความท้าทายก็คือ คล้ายๆกับกรณีของ ดีแคลน ไรซ์ ที่ทำอย่างไรจึงจะโน้มน้าวให้ เวสต์แฮม ปล่อยตัวเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ให้ได้ ในขณะที่สโมสรก็ยืนยันว่านักเตะไม่ได้มีไว้ขาย”

“ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ หากว่า โบเวน จะย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซนอล แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เรื่องสมมติ เพราะ เวสต์แฮม ไม่ต้องการขาย แต่ทาง อาร์เซนอล ก็ได้ทำการสอบถามเกี่ยวกับ โบเวน ไปแล้ว เพื่ออยากรู้ว่าสถานการณ์ของนักเตะเป็นอย่างไร? และพวกเขาก็ได้คำตอบเรียบร้อย”

อาร์เซนอล กำลังพยายามอย่างหนักในการจับ บูคาโย ซากา ปีกตัวเก่งต่อสัญญาฉบับใหม่ให้ได้ ท่ามกลางความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ทีมคู่แข่งสำคัญในศึกพรีเมียร์ลีก ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค

แข้งวัย 20 ปีเหลือสัญญาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม อีกเพียง 2 ปี โดยที่ทาง เดอะ กันเนอร์ส ต้องการให้เขาอยู่กับทีมต่อไปในระยะยาว และมีข่าวว่าพร้อมที่จะเพิ่มเงินค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ให้เป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดของสโมสร จากที่ปัจจุบันรับอยู่ประมาณ 70,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

รายงานจาก เดลี เมล เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีความสนใจจาก 2 ทีมลุ้นแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีข่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ช่วงปลายซีซั่นที่ผ่านมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม สื่อดังกล่าวยังระบุว่า อาร์เซนอล เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับ ซากา ได้ ในขณะที่ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับ 100 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กาเบรียล เชซุส กำลังจะเป็นนักเตะใหม่ของ อาร์เซน่อล อย่างเป็นทางการแล้ว และกระแสของแฟนปืนใหญ่ก็เริ่มคาดหวังถึงการเข้ามาของเขาในฐานะ “ตัวท็อป” ของทีม

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างอาจไม่ง่าย เพราะโดยเนื้อแท้และธรรมชาติแล้ว เชซุส เป็นนักเตะอีกประเภทหนึ่ง และทุกคนที่เคยร่วมงานกับเขาตั้งแต่ 8 ขวบจนถึงปัจจุบันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “มีนักเตะแบบนี้ไม่มากนักที่ยอมเป็นพระรองและไม่เอ่ยบ่นถึงบทบาทของตัวเอง” 

นี่คือก้าวครั้งสำคัญมากๆ สำหรับพระรองวัย 25 ปี กับการยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นพระเอกเต็มตัว ติดตามเรื่องราวของ เชซุส ได้ที่นี่

จุดเริ่มต้นของแข้งพระรอง

กาเบรียล เชซุส คือหนึ่งในนักเตะบราซิลที่แจ้งเกิดและถูกจับตาว่าจะเป็นตัวหลักในทีมชาติตั้งแต่ที่เขายังเล่นอยู่กับ พัลไมรัส สโมสรแรกของเขา ช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นราวปี 2015 ที่เชซุสมีพัฒนาการขึ้นมาอย่างโดดเด่น เขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมตั้งแต่อายุ 18 ปี ก่อนที่การเดินทางอันแสนน่าตื่นเต้นของเขาจะเริ่มขึ้น

เราเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้เห็นภาพในอดีตของเชซุสที่เขากำลังรับจ้างทาสีถนนเพื่อเตรียมเมืองให้พร้อมในวันที่บราซิลได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2014 ภาพนั้นบ่งบอกได้เป็นนัยๆ ถึงชีวิตและจุดเริ่มต้นของเขาก่อนจะก้าวมาถึงจุดนี้เป็นอย่างดี

เชซุส เป็นเด็กหนุ่มจากครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยากจน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการพยายามจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพเพื่อถีบชีวิตไปให้ไกล และเรื่องราวของเชซุสสมัยยังหนุ่มเคยถูกนำเสนอโดยสื่อในอังกฤษอย่าง เดอะ การ์เดียน ที่ลงพื้นที่ถึง เซา เปาโล บ้านเกิดของเขา และพบว่านี่คือเด็กหนุ่มที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตัวอยู่เสมอ

เรื่องนี้มันเริ่มขึ้นตอนเขาอายุ 8 ขวบ ที่ถูกเล่าโดยชายที่มีชื่อว่า โชเซ่ ฟรานซิสโก้ “มาเมเด้” ผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลท้องถิ่น Pequeninos do Meio Ambiente เพื่อให้เด็กๆได้มีเกมลงเล่น โดยที่เขาเป็นโค้ชอาสาแบบไม่มีค่าจ้าง มาเมเด้ เจอกับ เชซุส ครั้งแรกและเล่าว่า เชซุสมาที่ทีมตอน 8 ขวบ สนามของทีมยังเป็นสนามดินขรุขระ และเชซุสก็เริ่มแสดงความแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆให้เขาได้เห็น

โดยปกติแล้ว นักเตะบราซิลจะมีรูปแบบวิธีการเล่นที่ค่อนข้างควบคุมยาก รักความสบาย ใช้อารมณ์ และทักษะมากกว่าวินัย เรียกง่ายๆว่าเป็นพวก “ศิลปิน” โดยกำเนิด แต่สำหรับ เชซุส มาที่นี่ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน เขาจึงเป็นคนที่ไม่เคยอิดออดเรื่องการซ้อมหรือพยายามทำอะไรที่โค้ชไม่ได้สั่งเลย

“เขามาที่นี่ตอน 8 ขวบพร้อมรองเท้าแตะ เกมแรกผมให้เขายืมรองเท้าของเด็กอีกคน ได้เห็นเขาเลี้ยงผ่านผู้เล่นที่โตกว่า 3 คนสบายๆ” มาเมเด้ เริ่มเล่า

จริงๆแล้วมีเด็กหลายคนที่ทำแบบนี้ได้ แต่ภาระและสิ่งแวดล้อมได้พาพวกเขาไปจากสนามฟุตบอล ผมพยายามสร้างทีมนี้ให้ห่างไกลจากการเป็นกุ๊ยข้างถนน ผมพาพวกเขาไปแข่งตามที่ต่างๆด้วยรถเต่าของผมที่อัดแน่นด้วยนักเตะเด็กๆเป็น 10 คน”

“ผมบอกกับเชซุส และเขาตอบกลับมาว่า -เขาจะไม่มีวันพลาดการฝึกซ้อมแม้แต่ครั้งเดียว และจะลงเล่นทุกเกมที่ผมให้โอกาสเขา- แล้วเขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เขาไม่ใช่นักเตะประเภทที่ชอบหลบหลังคนอื่นและแกล้งทำท่าเหมือนซ้อมเพื่อลงสนามอย่างเดียว”

“ผมมีเด็กทั้ง 10 คนที่เก่งพอๆกันหรืออาจจะมากกว่าเขา แต่สุดท้ายไม่มีใครได้ดีไปกว่าเขาเลย และความต่างเดียวที่ผมเชื่อมาเสมอคือ คนอื่นไปไม่ถึงจุดที่เชซุสยืนอยู่เพราะพวกเขาขี้เกียจเกินไป และสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเชซุสเลย”

ส่วนวิธีการเล่นของ เชซุส เมื่อโตขึ้นก็ยิ่งแตกต่างกับนักเตะบราซิลคนอื่นๆ แม้พื้นฐานทักษะด้านฟุตบอลจะยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่เซชุสถนัดที่สุดคือการยิงประตู และเป็นการยิงแบบประเภท “รอชาร์จ” แบบที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ จนเขาถูกเรียกอีกชื่อว่า “เตตินญ่า” ซึ่งเป็นศัพท์แสลงภาษาโปรตุเกสที่แปลว่า “ง่าย” 

331
ข่าวสารล่าสุด