Logo
           
-สมัครสมาชิก-
           
-เข้าสู่ระบบ-
           
-ติดต่อเรา-

คูคูเรยา” แจ้งบอร์ดขอย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนตลาดปิด

คูคูเรยา ฟูลแบ็กของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน แจ้งสโมสรว่าขอย้ายทีม โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ต้องการตัวเขาไปร่วมงานด้วย

แข้งชาวสเปนวัย 24 ปี มีสัญญาถึงกลางปี 2026 กับ “นกนางนวล” ที่เขาเพิ่งย้ายมาในฤดูกาลที่แล้ว แต่กลับสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น

ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ไบร์ทตัน เองก็พร้อมจะโก่งราคาด้วยค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์ และทำให้การเจรจายังคงไม่สามารถเจรจาได้ลงตัว

อย่างไรก็ตาม รายงานจาก บีบีซี ระบุว่า คูคูเรยา รู้สึกว่าค่าตัวของตนเองที่ออกมาเป็นค่าตัวที่ไม่สมเหตุสมผล ทำให้เขาตัดสินใจเลือกแจ้งขอย้ายออกจากทีม และการเจรจายังคงเดินหน้าต่อไป

ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับตำแหน่งแบ็กซ้าย พวกเขาเสีย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ที่ย้ายไปร่วมงานกับ อาร์เซนอล ขณะที่ แบ็งจาแม็ง เมนดี มีปัญหาเรื่องคดีความและหลุดออกจากทีมไปแล้ว นั่นทำให้การมองหาแบ็กซ้ายคนใหม่เกิดขึ้นกับทีม

เบน จาค็อบส์ ผู้สื่อข่าวของทาง CBS ได้ออกมาเปิดเผยว่า มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมคู่แข่งในศึกพรีเมียร์ลีก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของ จาร์ร็อด โบเวน ในช่วงซัมเมอร์นี้

ปีกวัย 25 ปี ถือเป็นนักเตะที่โดดเด่นคนหนึ่งของทีมขุนค้อนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่

ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูกับ ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าตัวก็ตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของ เดอะ กันเนอร์ส ทีมร่วมกรุงลอนดอนไปแล้ว

จาค็อบส์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้กับทางเว็บไซต์ Givemasport ว่า ทาง อาร์เตตา ได้ให้ความสนใจ โบเวน เป็นอย่างมาก และเขาได้มีการสอบถามไปยัง เวสต์แฮม ถึงความเป็นไปได้ในการย้ายทีมด้วย

“ด้าน โบเวน จุดยืนของ เวสต์แฮม ก็คือ พวกเขาไม่ต้องการขายนักเตะคนนี้ ซึ่งมีหลายสโมสรที่วนเวียนตกเป็นข่าวด้วย แต่ความท้าทายก็คือ

คล้ายๆกับกรณีของ ดีแคลน ไรซ์ ที่ทำอย่างไรจึงจะโน้มน้าวให้ เวสต์แฮม ปล่อยตัวเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ให้ได้ ในขณะที่สโมสรก็ยืนยันว่านักเตะไม่ได้มีไว้ขาย”

“ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ หากว่า โบเวน จะย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซนอล แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เรื่องสมมติ เพราะ เวสต์แฮม

ไม่ต้องการขาย แต่ทาง อาร์เซนอล ก็ได้ทำการสอบถามเกี่ยวกับ โบเวน ไปแล้ว เพื่ออยากรู้ว่าสถานการณ์ของนักเตะเป็นอย่างไร? และพวกเขาก็ได้คำตอบเรียบร้อย”

เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยังคงจับตามองสถานการณ์ของ เฟเดริโก บัลเบร์เด กองกลางตัวเก่งของ เรอัล มาดริด โดยยังหวังที่จะได้ตัวนักเตะมาร่วมทีมในอนาคตอันใกล้นี้ ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูล เอ็คโค

นายใหญ่หงส์แดงประทับใจลีลาของแข้งอุรุกวัยรายนี้เป็นอย่างมากและเคยมีข่าวต้องการดึงตัวมาร่วมทีมแล้วครั้งหนึ่งตั้งแต่ช่วงที่ตลาดซื้อขายเปิดทำการใหม่ๆ ในขณะที่ตัวนักเตะยังมีสัญญาอยู่กับทีม โลส บลังโกส อยู่จนถึงปี 2027

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหาก คาร์โล อันเชล็อตติ เฮดโค้ชของราชันชุดขาว ตัดสินใจปล่อยตัว บัลเบร์เด ออกจากทีมจะทำให้สโมสรสามารถทำเงินก้อนโตจากนักเตะได้ ซึ่งเป็นโอกาสของ ลิเวอร์พูล ที่จะคว้าตัวไปเสริมทัพด้วย

รายงานจาก นาซิอองนาล สื่อดังของสเปน เชื่อว่า แม้ในเวลานี้ ดาวเตะวัย 24 ปีจะยังคงได้รับการการันตีตัวจริงจากอันเช่ก็ตาม แต่ คล็อปป์ ก็พร้อมที่จะเปิดประตูรอรับนักเตะหากเจ้าตัวต้องการย้ายทีมในเร็วๆนี้

นับจากความสำเร็จเมื่อปี 1998 กับการคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่บนแผ่นดินเกิด ทีมชาติฝรั่งเศสมักทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังอยู่บ่อยครั้งบนเวทีฟุตบอลโลก สวนทางกับความคาดหวังของแฟนบอล เมื่อมองไปยังทีมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์

ท่ามกลางเรื่องราวดราม่ามากมายที่เกิดขึ้น ในที่สุด ทีมชาติฝรั่งเศสก็กลับมารวมใจเป็นหนึ่งได้อีกครั้ง และเดินทางสู่ฟุตบอลโลก 2018

โดยปราศจากปัญหาทีมแตกและความพ่ายแพ้อย่างไม่น่าอภัย ก่อนก้าวไปคว้าตำแหน่งแชมป์โลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ความสามัคคี แทคติกที่สอดคล้องกับนักเตะ และจิตวิญญาณของผู้ชนะ ทั้งหมดคือปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้ทัพตราไก่สามารถคว้าแชมป์โลกสมัยที่สองของตัวเองได้สำเร็จ

ติดตามเรื่องราวกว่าจะถึงดาวดวงที่สองของ เลอ เบลอส์ ได้ที่ Main Stand

ความสามัคคีต้องกลับคืนมา

ปัญหาแรกที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ต้องเข้ามาแก้ไขหลังรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศสเมื่อปี 2012 คือ “ความไม่สามัคคีของนักเตะ”

หลังย้อนกลับไปสองปีก่อนหน้านั้น ทัพตราไก่ได้ร่วงหล่นถึงจุดต่ำสุดนับตั้งแต่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่

จะตกรอบแรกของการแข่งขัน แต่ยังสร้างข่าวฉาวน่าอับอายไม่เว้นแต่ละวัน

ทีมชาติฝรั่งเศสในศึกฟุตบอลโลก 2010 คือหายนะ นักเตะหลายคนถูกตัดออกจากสารบบเพราะทะเลาะกับผู้จัดการทีม ไม่ว่าจะเป็น

ฟลอร็องต์ มาลูด้า ที่โดนดร็อปกลางทัวร์นาเมนต์ แม้จะเป็นนักเตะเพียงคนเดียวของทีมที่ทำประตูได้เนื่องจากทะเลาะกับ เรย์มงด์ โดเมเน็ค กุนซือจอมเพี้ยนของทัพตราไก่

ยิ่งไปกว่านั้น นิโกลาส์ อเนลก้า กองหน้าความหวังในการทำประตูของพวกเขาก็โดนเนรเทศออกจากทีมกลางทัวร์นาเมนต์

โดยสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส เนื่องจากอเนลก้าเลือกใช้คำด่าอย่างหยาบคายใส่โดเมเน็คและปฏิเสธที่จะกล่าวคำขอโทษ ซึ่งนับจากวันนั้น อเนลก้าก็ไม่เคยกลับมาติดทีมชาติฝรั่งเศสอีกเลย

ส่วนนักเตะคนอื่นที่ไม่ถูกตัดออกจากทีมก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีปัญหา ปาทริซ เอฟร่า แบ็กซ้ายตัวเก่งก็เกือบจะวางมวยในสนามซ้อมกับ

โค้ชฟิตเนส แถมนักเตะยังเคยรวมตัวกันไม่ลงจากรถบัสเพื่อประท้วงการทำงานของโค้ชโดเมเน็ค ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่า

ทำไมทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้จะกลายเป็นรอยด่างพร้อยครั้งใหญ่ในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส และหลังจากนั้น โดเมเน็คได้พ้นจากตำแหน่งไป เหลือไว้เพียงทีมแตกร้าวที่รอให้ใครสักคนสร้างมันขึ้นมาใหม่

หนึ่งในวีรบุรุษชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 อย่าง โลร็องต์ บล็องก์ ถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ และเลือกจะใช้ไม้แข็งด้วยการ

ไม่เลือกนักเตะทั้ง 23 คนที่ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2010 เข้ามาติดทีมชาติในเกมแรกที่เขาคุมทีมชาติฝรั่งเศส แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าบล็องก์จะเป็นโค้ชที่ดีกว่าโดเมเน็คสักเท่าไหร่

มีรายงานว่า บล็องก์เคยแสดงความเห็นที่ออกไปในทางเหยียดสีผิว หลังเจ้าตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส

เพื่อระบายความอัดอั้นที่สโมสรฟุตบอลฝรั่งเศสเอาแต่สร้างนักเตะที่มีแต่ความแข็งแกร่งและความเร็วแต่ปราศจากเทคนิคและ

ความเฉลียวฉลาด ซึ่งถ้าแปลง่ายๆคือ บล็องก์กำลังด่าว่า ทำไมฝรั่งเศสถึงผลิตแต่นักเตะผิวดำที่มีสมรรถภาพร่างกาย แต่ไม่ฉลาดในแบบที่เขาต้องการ

คำพูดของบล็องก์สร้างความไม่พอใจแก่ผู้คนมากมายในฝรั่งเศส เพราะคำพูดของเขาไปเข้าทางกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัดที่มีแนว

คิดต่อต้านผู้อพยพและเหยียดสีผิว ซึ่งยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสมาถึงปัจจุบัน คำพูดในลักษณะที่ยุยงให้

เกิดการแบ่งแยกในสังคมเช่นนี้จึงถูกมองว่าไม่สมควรออกจากปากของผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส

หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังในยูโร 2012 บล็องก์จึงถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว และแทนที่ด้วย เดส์ชองส์

กัปตันทีมชุดแชมป์โลกปี 1998 ผู้มองเห็นความสำคัญของความสามัคคีและการหลอมรวมทางวัฒนธรรมทีม เพราะทัพตราไก่ชุด

ประวัติศาสตร์เคยถูกขนานนามว่า “แบล็ก-บล็องก์-เบอร์” (Black-Blanc-Beur) ที่แปลว่า คนผิวดำ-คนผิวขาว-คนอาหรับ

เนื่องจากทีมชาติฝรั่งเศสชุดนั้นผสมผสานตัวหลักจากสามเชื้อชาติ ยกตัวอย่างคือ ตูราม (คนผิวดำ)-เดส์ชองส์ (คนผิวขาว)-ซีดาน (คนอาหรับจากเชื้อสายแอลจีเรีย) ตามลำดับ

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เดส์ชองส์คำนึงเรื่องความสามัคคีของทีมเป็นสำคัญ เขาเลือกจะไม่ใช้บริการของ คาริม เบนเซม่า กองหน้าแห่ง

เรอัล มาดริด นับตั้งแต่ยูโร 2016 หลังเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องแบล็กเมลนักเตะร่วมชาติอย่าง มาติเยอ วัลบูเอน่า และยังคงตัดเขาออกจากทีมชุดฟุตบอลโลก 2018 (ก่อนจะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในชุดยูโร 2020)

ส่วนกองหน้าชาวฝรั่งเศสที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ทั้ง อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ และ อ็องโต

441
ข่าวสารล่าสุด